เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [9. อาฎานาฎิยสูตร] ภาณวารที่ 2

ข้าพระองค์ทั้งหลายถามพวกอมนุษย์ว่า
‘พวกท่านถวายอภิวาทพระชินโคดมหรือ’
พวกอมนุษย์ตอบว่า
‘พวกเราถวายอภิวาทพระชินโคดม’
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ขอถวายอภิวาทพระพุทธโคดม
ผู้เพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
[290] พระสุริยะ คือพระอาทิตย์
มีมณฑลใหญ่ ตกทางทิศใด
เมื่อพระอาทิตย์ตก กลางวันก็หายไป
และเมื่อพระอาทิตย์ตกเรียกกันว่ากลางคืน
ในที่ที่พระอาทิตย์ตกนั้น มีห้วงน้ำลึก
คือมหาสมุทรที่เต็มด้วยน้ำ
ชนทั้งหลายรู้จักห้วงน้ำนั้นว่า สมุทรที่เต็มด้วยน้ำ
คนเรียกทิศนั้นว่า ทิศนั้นเป็นทิศตะวันตกจากภูเขาสิเนรุนี้ไป
ซึ่งเป็นทิศที่ท้าวมหาราชผู้มียศองค์นั้นอภิบาลอยู่
ท้าวมหาราชนั้นมีพระนามว่าวิรูปักษ์
ทรงเป็นหัวหน้าของพวกนาค มีนาคแวดล้อม
ทรงโปรดปรานการร่ายรำและการขับร้อง
ข้าพระพุทธเจ้าได้สดับมาว่า
‘แม้โอรสของท้าววิรูปักษ์จะมีมาก ก็มีพระนามเดียวกัน
คือ ทั้ง 91 องค์ มีพระนามว่าอินทะ ต่างมีพลังมาก’
ท้าววิรูปักษ์ และโอรสเหล่านั้น
ได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้ตื่นแล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :238 }


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [9. อาฎานาฎิยสูตร] ภาณวารที่ 2

ผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์
พากันถวายอภิวาทพระพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ปราศจากความครั่นคร้าม แต่ที่ไกล
ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงเป็นบุรุษอาชาไนย
ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมพระองค์
ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงเป็นบุรุษสูงสุด
ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมพระองค์
ขอพระองค์โปรดตรวจดูด้วยพระญาณอันฉลาดเถิด
แม้อมนุษย์ทั้งหลายก็ถวายอภิวาทพระองค์
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ก็ได้สดับเรื่องนี้มาเนือง ๆ ฉะนั้น จึงกราบทูลเช่นนี้
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ถามพวกอมนุษย์ว่า
‘พวกท่านถวายอภิวาทพระชินโคดมหรือ’
พวกอมนุษย์ตอบว่า
‘พวกเราถวายอภิวาทพระชินโคดม’
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ขอถวายอภิวาทพระพุทธโคดม
ผู้เพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
[291] อุตตรกุรุทวีปเป็นรมณียสถาน
มีภูเขาหลวงชื่อสิเนรุ แลดูงดงาม ตั้งอยู่ทางทิศใด
พวกมนุษย์ซึ่งเกิดในอุตตรกุรุทวีปนั้น
ไม่ยึดถือสิ่งใดว่าเป็นของตน ไม่ถือครอง
มนุษย์เหล่านั้น ไม่ต้องหว่านพืช
ไม่ต้องนำไถออกไถ
หมู่มนุษย์บริโภคข้าวสาลี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :239 }